เทคโนโลยี
สภาพแวดล้อมที่ซึ่งผู้เริ่มต้นอาชีพได้ทำงานร่วมกับความรู้จากประวัติศาสตร์บริษัทอันยาวนานกว่า 125 ปี และผู้นำได้รับมุมมองใหม่ๆ: tesa พัฒนาโซลูชันที่เน้นลูกค้าได้รวดเร็วและดียิ่งขึ้น – ด้วยแรงขับเคลื่อนจากคนที่ใช้ AI อย่างมีเป้าหมายเพื่อเร่งนวัตกรรม
ที่ tesa การเปลี่ยนทัศนคติขั้นพื้นฐานคือจุดสำคัญ: พนักงานทุกคนจะกลายเป็นผู้บุกเบิกด้าน AI ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงาน โปรแกรมเสริมศักยภาพด้าน AI แบบองค์รวมนี้ไปไกลกว่าการใช้เครื่องมือ และสร้างวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมใหม่ตลอดทั้งองค์กร
การเพิ่มศักยภาพด้วย AI หมายถึงมากกว่าการใช้เครื่องมือ AI เพียงอย่างเดียว พนักงานของเราสามารถพัฒนาโซลูชัน AI ที่ปรับแต่งตามความต้องการได้ด้วยตนเอง นำระบบอัจฉริยะมาใช้ และริเริ่มเครือข่ายตัวแทนอัจฉริยะข้ามสายงาน แนวคิดหลักคือ เรายกระดับความเชี่ยวชาญที่มีอยู่เดิมด้วยทักษะด้าน AI เมื่อพนักงานทุกคนสามารถค้นหาและนำกรณีการใช้ AI ที่เกี่ยวข้อง ไปประยุกต์ใช้ในสาขาของตนเองได้อย่างอิสระ สิ่งนี้จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืนในระดับองค์กร ทั้งยังสามารถปรับแต่งเครื่องมือ AI ให้เหมาะสมกับความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ส่งผลให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความท้าทายพื้นฐานไม่ได้แสดงออกในมิติทางเทคโนโลยีมากเท่ากับในด้านการเปลี่ยนแปลงขององค์กร: จะบริหารจัดการการเปลี่ยนผ่านจากโครงการนำร่องที่ประสบความสำเร็จไปสู่การขยายผลในระดับทั้งองค์กรได้อย่างมีประสิทธิผลได้อย่างไร?
หลายบริษัทได้เริ่มมีประสบการณ์เชิงบวกจากการใช้ AI แล้ว กรณีการใช้งานกำลังให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ฝ่ายงานเฉพาะทางแสดงความสนใจ และทีมงานแต่ละทีมกำลังทำงานอย่างมีประสิทธิผลด้วยเครื่องมือ AI ประเด็นคือ: จะถ่ายทอดความสำเร็จเหล่านี้อย่างเป็นระบบสู่ทั้งองค์กรได้อย่างไร?
ประสบการณ์ของ tesa แสดงให้เห็นว่า: การเปลี่ยนผ่านด้วย AI อย่างยั่งยืนนั้น โดยพื้นฐานแล้วเป็นภารกิจแบบองค์รวม ปัจจัยสำคัญคือการพัฒนาองค์กรให้สามารถใช้และขยายขีดความสามารถของ AI ได้อย่างเป็นระบบ การเปลี่ยนมุมมองที่จำเป็นคือ: จาก "สามารถใช้เครื่องมือ AI อะไรได้บ้าง?" ไปสู่ "จะออกแบบองค์กรอย่างไรเพื่อให้ AI สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่?"
แนวทางแบบบูรณาการของ tesa มีพื้นฐานอยู่บนเสาหลักสามประการที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ได้แก่ เทคโนโลยี ข้อมูล และผู้คน ทั้งสามส่วนนี้ต้องได้รับการพัฒนาไปพร้อมกัน หากละเลยเสาหลักใดเสาหลักหนึ่ง จะเสี่ยงต่อความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
คุณภาพของแอปพลิเคชัน AI ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูลพื้นฐานอย่างสิ้นเชิง tesa ดำเนินกลยุทธ์ด้านข้อมูลอย่างครอบคลุมโดยอิงตามหลักสามประการ ได้แก่ การปรับข้อมูลให้สอดคล้องกัน, การเข้าถึงศูนย์กลาง, และการกำกับดูแลที่ชัดเจน
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ได้มีการสร้างข้อมูลทดสอบอย่างมหาศาลระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งกระจายอยู่ในระบบต่าง ๆ ด้วยการจัดระเบียบและผนวกรวมข้อมูลเหล่านี้เข้าสู่สถาปัตยกรรมดาต้าเลกอย่างเป็นระบบ ปัจจุบันสามารถตอบข้อซักถามเชิงเทคนิคจากลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น สิ่งที่เคยต้องใช้เวลาค้นคว้าด้วยตนเองอย่างยาวนาน บัดนี้สามารถดำเนินการได้ด้วยการวิเคราะห์แบบรวมศูนย์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ธรรมาภิบาลข้อมูลไม่ใช่โครงการที่ทำครั้งเดียวจบ แต่เป็นกระบวนการอย่างต่อเนื่องที่มีหน้าที่รับผิดชอบ มาตรฐาน และการควบคุมที่ชัดเจน สิ่งนี้จะสร้างแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้เพียงแหล่งเดียวเพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI ในระดับที่ขยายได้
เทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลจะสามารถสร้างศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ก็ต่อเมื่อผู้คนใช้มันอย่างมีทักษะและมั่นใจ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่การเสริมศักยภาพด้าน AI อย่างเป็นระบบถือเป็นการลงทุนที่สำคัญ
แนวทางของ tesa ดำเนินการในหลายระดับ: รับประกันความโปร่งใสเกี่ยวกับเป้าหมายและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้วย AI การสื่อสารอย่างเปิดเผยในประเด็นต่าง ๆ เช่น “AI ถูกนำมาใช้เพื่ออะไร?” “นั่นมีความหมายอย่างไรต่อบทบาทงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน?” และ “ทักษะใดบ้างที่กำลังมีความสำคัญมากขึ้น?” รวมถึงหลักสูตรการฝึกอบรมที่มีโครงสร้าง Tesa AI Academy นำเสนอการฝึกอบรมที่ปรับให้เหมาะสม ซึ่งมีพนักงานกว่า 1,000 คนเข้าร่วมใช้งานภายในสัปดาห์แรกหลังจากเปิดตัว นอกจากนี้ยังมี AI Ambassadors มากกว่า 90 คนทั่วโลกที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนและผู้นำเสนอข้อมูลในทีมของตน โครงสร้างแบบกระจายศูนย์นี้ช่วยให้สามารถให้การสนับสนุนในจุดที่มีความจำเป็นมากที่สุด—ในฝ่ายงานเฉพาะทางเอง
เหตุการณ์สำคัญพิเศษคือ Global AI Day ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งพนักงานทุกคนทั่วโลกสามารถสัมผัสและทดลองใช้ AI ได้โดยตรง งานดังกล่าวช่วยสร้างองค์ความรู้ ความกระตือรือร้น และความเต็มใจที่จะทดลองแนวทางการทำงานแบบใหม่
ผลลัพธ์นี้สะท้อนให้เห็นในแบบสำรวจภายใน: พนักงานมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ประเมินว่าความพร้อมด้าน AI ของ tesa อยู่ในระดับสูงหรือสูงมาก สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือกรณีการใช้งานต่าง ๆ กำลังได้รับการพัฒนาและนำไปใช้โดยอิสระมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่ประสบความสำเร็จ
ความสำเร็จของการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ นั้นเห็นได้ชัดเจน: การวิเคราะห์ข้อมูลการผลิตรวดเร็วกว่าขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์, ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ผ่านแดชบอร์ดการขาย, และประหยัดเวลาได้อย่างมากเมื่อต้องเปรียบเทียบข้อเสนอ ในทุกแอปพลิเคชัน แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าความคิดริเริ่มด้าน AI มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนมากเพียงใด
ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพก็กำลังเกิดขึ้น ทีมงานไม่ถกเถียงกันอีกต่อไปว่า ควรใช้ AI หรือไม่ แต่พูดถึงวิธีการนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด งานที่ทำซ้ำ ๆ ถูกทำให้เป็นระบบอัตโนมัติอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้เกิดศักยภาพสำหรับการทำงานที่สร้างคุณค่าและความคิดสร้างสรรค์
ในเดือนพฤษภาคม 2025 แนวทางดังกล่าวได้รับรางวัล DPOK ในหมวด "กลยุทธ์และการผสานรวม AI" โดยเน้นย้ำถึงแนวคิดแบบองค์รวมและการส่งเสริมการใช้ AI อย่างต่อเนื่องสำหรับพนักงานทุกคน
คำถามในตอนนี้ไม่ใช่ว่าบริษัทต่าง ๆ ใช้ AI หรือไม่ แต่คือจะผสาน AI เข้ากับองค์กรอย่างไรเพื่อสร้างคุณค่าอย่างแท้จริง ส่งเสริมศักยภาพพนักงาน และขยายธุรกิจอย่างยั่งยืน
ประสบการณ์ของ tesa แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถขององค์กรในการพัฒนา มากกว่าขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีแนวทางแบบบูรณาการที่ให้ความสำคัญกับ เทคโนโลยี ข้อมูล และบุคลากรอย่างเท่าเทียมกัน จะเป็นรากฐานสำหรับความสำเร็จในระยะยาว
กระบวนการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องท้าทาย ต้องอาศัยความอดทนในเชิงกลยุทธ์ การลงทุนที่มากพอสมควร และความมุ่งมั่นที่จะตั้งคำถามกับโครงสร้างที่มีอยู่เดิม ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าเส้นทางนี้คุ้มค่า ไม่ใช่แค่ในด้านประสิทธิภาพที่วัดผลได้เท่านั้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้องค์กรพร้อมรับอนาคต ที่ tesa นักวิชาชีพรุ่นใหม่ในวันนี้ได้ทำงานร่วมกับองค์ความรู้กว่า 125 ปี และกำลังร่วมกันสร้างอนาคตให้เทคโนโลยีกาวอุตสาหกรรม
